|
ในเวลาต่อมา
ประเทศอื่นๆในทวีปยุโรปได้เจริญรอยตามสมาคมแมวในประเทศอังกฤษ
โดยชาวนอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ค ต่างก็เริ่มนำแมวจากประเทศอังกฤษไปเลี้ยงและจัดตั้งสมาคมแมวขึ้นในประเทศของตน
ประเทศต่างๆเหล่านี้จะจัดการประกวดแมวขึ้นปีละครั้ง และเนื่องจากประเทศเหล่านี้ไม่มีกฎหมายว่าด้วยการกักกันสัตว์
การประกวดแมวจึงสามารถทำกันได้อย่างกว้างขวาง เช่นในประเทศฝรั่งเศส
เยอรมนี และอิตาลี ส่วนประเทศอังกฤษนั้นมีกฎหมายควบคุมในด้านนี้อยู่
จึงทำให้งานประกวดไม่ยิ่งใหญ่เท่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่แมวพันธุ์ที่ดีที่สุดในประเทศอังกฤษก็ยังคงมีอยู่
ซึ่งแมวที่ชนะการประกวดรางวัลใหญ่นั้น ล้วนแต่เป็นแมวที่มีต้นตระกูลอยู่ในประเทศอังกฤษแทบทั้งสิ้น
ในประเทศฝรั่งเศสมีแมวพันธุ์ Burman เป็นแมวขนยาว แต่มีสีคล้ายคลึงกับแมวพันธุ์วิเชียรมาศของไทย
และมีอุ้งเท้าทั้งสี่เป็นสีขาว และยังมีแมวอีกชนิดหนึ่งเรียกว่าพันธุ์
Charkeuse ซึ่งมีเรื่องเล่ากันว่ามีบาทหลวงองค์หนึ่งนำมาจากแอฟริกาได้นำเข้าไปเลี้ยงในประเทศฝรั่งเศส
แมวชนิดนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับแมวพันธุ์สีสวาดพันธุ์อังกฤษ
ประเทศฝรั่งเศสมีแมวพันธุ์ดีอยู่หลายชนิด การประกวดแมวในประเทศนี้จึงน่าชมเป็นอย่างยิ่ง
เพราะจัดกันอย่างใหญ่โตหรูหรามาก
ในประเทศฮอลแลนด์มีการประกวดแมวกันปีละหลายครั้ง และมักจะเชิญชาวอังกฤษมาเป็นคณะกรรมการตัดสิน
สำหรับการประกวดแมวในประเทศอังกฤษ มักมีผู้เลี้ยงแมวจากประเทศต่างๆมาเยือนและซื้อแมวไปทำพันธุ์เสมอ
ส่วนในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์นั้นไม่มีแมวป่าในธรรมชาติเลย
จนกระทั่งมีชาวต่างด้าวเข้าไปตั้งรกราก จึงนำสัตว์เลี้ยงประจำบ้าเช่นแมวติดมาด้วย
จนกระทั่งทั้งสองดินแดนนี้มีแมวอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังต้องสั่งแมวจากประเทศอังกฤษเข้ามา
เพราะอังกฤษมีแมวสายพันธุ์ดีอยู่มากมาย ซึ่งการประกวดแมวในประเทศออสเตรเลียนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก
พันธุ์แมวต่างๆที่เลี้ยงจะเหมือนกับประเทศอังกฤษ ยกเว้นพันธุ์
Shaded Silver ซึ่งเป็นพันธุ์เก่าแก่ แต่ปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว
ในแถบแอฟริกานั้นมีสัตว์ตระกูลแมวอยู่มาก นับตั้งแต่สิงโตจนถึงแมวป่า
ในบันทึกได้ระบุไว้ว่าชนผิวขาวได้นำแมวของตนเข้ามาเลี้ยงในทวีปนี้ด้วย
นับแต่สิ้นสงครามเป็นต้นมา ได้มีการสนใจในการเพาะพันธุ์แมวในทวีปนี้มากขึ้นเป็นลำดับ
ได้มีการนำแมวไทย แมวอบิสสิเนียน และแมวขนยาวเข้าไปเลี้ยง ทำให้มีการผสมพันธุ์แมวพันธุ์ต่างๆกันอย่างกว้างขวาง
และมีการจัดประกวดแมวกันทั่วไป บางงานเจ้าของแมวจะต้องเดินทางไกลเป็นพันไมล์เพื่อเข้าร่วมงานเลยทีเดียว
ในสหรัฐอเมริกานั้น ดูเหมือนว่าจะให้ความสำคัญกับแมวมากกว่าในยุโรปเสียอีก
เพราะมีการออกนิตยสารเกี่ยวกับแมวเป็นรายสัปดาห์ชื่อ National
Cat Week และในปีๆหนึ่งจะมีการจัดประกวดแมวนับร้อยๆครั้ง ตามประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่า
ชาวสเปนเป็นชนชาติแรกที่นำแมวเข้ามาในทวีปอเมริกา และคณะบาทหลวงเยซูอิทได้นำแมวติดตัวไปท่องเที่ยตามทะเลชายฝั่งเม็กซิโก
ทำให้แมวแพร่กระจายพันธ์ไปได้อย่างรวดเร็วในประเทศนี้
เล่ากันว่า ชาวอินเดียนแดงก็มีการเลี้ยงแมวด้วยเช่นกัน โดยเมื่อราวๆปี
ค.ศ. 1830 พวกอินเดียนแดงได้เลี้ยงแมวไว้ในกระโจมพักของตนเช่นเดียวกับสุนัข
ราคาค่างวดของแมวในขณะนั้น มีราคาถึงตัวละ 10 ดอลลาร์ พวกที่เดินทางก็มักจะนำแมวติดไปกับขบวนรถของตน
การซื้อขายแมวได้แพร่ไปจนถึงเขตบ่อทอง โดยเฉพาะพวกนักขุดทองชอบเลี้ยงแมวไว้ดูเล่น
เมื่อมีการสร้างบ้านสร้างเมืองขึ้น จำนวนของแมวก็เพิ่มขึ้นมาก
จากบันทึกระบุไว้ว่ามีมากถึง 50 ล้านตัว
ปี ค.ศ.1884 ได้มีการจัดประกวดแมวเป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา
ต่อมาในปี ค.ศ. 1895 ได้มีการจัดประกวดอีกครั้ง ณ นครนิวยอร์ค
แต่จัดโดยสมาคมของชาวอังกฤษ และสมาคมแมวของอังกฤษ ก็ได้มอบแมวจากงานนี้ให้กับสโมสรแมวแห่งอเมริกา
ซึ่งในปี ค.ศ. 1889 ได้มีการจัดตั้ง The Beresfort Club ขึ้นที่เมืองชิคาโก
ความสนใจในเรื่องพันธุ์แมวจึงแพร่หลายออกไป โดยในปัจจุบันมีนักผสมพันธุ์แมวและผู้นำแมวเข้าประกวดแล้วกว่า
6,00 คน ทั้งนี้ไม่รวมคนที่เลี้ยงแมวไว้เพียงตัวสองตัวเท่านั้น
สำหรับแมวในอเมริการุ่นแรกนั้นนำเข้ามาจากประเทศอังกฤษ แต่เมื่อเวลาผ่านไป
การเพาะเลี้ยงและผสมพันธุ์แมวในอเมริกาได้รับการพัฒนามากขึ้น
จนทำให้ในปัจจุบัน อเมริกามีแมวเกือบทุกชนิด และเนื่องจากสหรัฐอเมริกามีดินแดนที่กว้างขวาง
จึงมีการจัดประกวดแมวขึ้นหลายแห่ง และถึงแม้ชาวอเมริกาสามารถเพาะพันธุ์แมวของตนขึ้นได้แล้ว
แต่นักเลี้ยงก็ยังนิยมสั่งซื้อแมวจากประเทศอังกฤษ
สำหรับในประเทศญี่ปุ่น ได้มีการเลี้ยงแมวมาเป็นเวลาช้านานแล้ว
โดยสังเกตได้จากภาพศิลปะและภาพแกะสลักสมัยโบราณซึ่งมีรูปแมวปรากฎอยู่
แต่การคัดเลือกแมวสายพันธุ์ดีนั้น เพิ่งจะมีการให้ความสนใจกันอย่างจริงจังไม่นานนี้เอง
จากการสำรวจแมวในประเทศญี่ปุ่น ปรากฎว่ามีจำนวนประมาณ 5 ล้านตัว
สำหรับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับแมวมีอยู่ด้วยกันสองสมาคม การจัดประกวดแมวจะมีขึ้นทุกปีที่กรุงโตเกียว
แต่แมวคุณภาพดียังมีน้อยเมื่อเทียบกับสัดส่วนของแมวในประเทศทั้งหมด
ส่วนแมวที่ได้รับความนิยม ก็คือแมวพันธุ์สามสี แมวไทย และแมวพันธุ์ขนยาว
ปัจจุบันญี่ปุ่นได้พัฒนาและปรับปรุงแมวของตนให้ดีขึ้นจนเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศแล้ว
ซึ่งในช่วงศตวรรษที่ 2 นั้น ประเทศญี่ปุ่นได้มีแมวประเภทสวยงามเกิดขึ้นมากมาย
และมีคนสนใจในแมวประเภทนี้มากขึ้น ได้มีการเพาะผสมพันธุ์กันอย่างแพร่หลาย
และมีการให้คำแนะนำกับสมาชิกที่สนใจ
ในปี ค.ศ. 1910 อังกฤษได้ก่อตั้ง The Government Council of
the Cat Fancy และยังมีการก่อตั้งองค์กรลักษณะเดียวกันนี้ทั้งในประเทศแคนาดาและอเมริกาด้วย
และยังได้มีการก่อตั้งสหพันธ์แมวนานาชาติแห่งยุโรป มีสมาชิกจากประเทศต่างๆในยุโรป
12 ประเทศ และต่อมามีการจัดตั้งสมาคมในเครือจักรภพอังกฤษ ซึ่งล้วนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสายพันธุ์ของแมว
รวมทั้งศึกษารายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับแมวแต่ละสายพันธุ์ เริ่มตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของแต่ละสายพันธุ์
การผสมพันธุ์ ฯลฯ และมีการทำประวัติสายพันธุ์ (Pedigree) อีกด้วย
|
|